แพทย์เตือนสัมผัส “ควันบุหรี่มือสาม” ติดตามของใช้ กระทบสุขภาพหนัก ทำผิวหนังอักเสบ เกิดโรคสะเก็ดเงินชนิดผื่นหยา เจอสารบ่งชี้ทำลายดีเอ็นเอในปัสสาวะมากขึ้น ก่อให้เกิดมะเร็งได้
เมื่อวันที่ 30 พ.ย. ผศ.นพ.วิชช์ เกษมทรัพย์ ผอ.ศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.) กล่าวว่า ควันบุหรี่มือสามแม้จะไม่เห็นควันแต่อันตราย เป็นควันจากการสูบที่ติดกับของใช้ เช่น พรม ผ้าม่าน โซฟา การสัมผัสควันบุหรี่มือสามมีความสัมพันธ์กับกระบวนการสร้างและสลายของสารเคมีที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ ก่อเกิดมะเร็งอย่างมีนัยสำคัญ ล่าสุด ต.ค.ที่ผ่านมา มีการเปิดเผยรายงานผลวิจัยจาก ภาควิชาเซลล์และชีววิทยาระดับโมเลกุล ร่วมกับ ศูนย์ศึกษาและวิจัยการควบคุมยาสูบ และภาควิชาสถิติ มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เกี่ยวกับผลเสียทางสุขภาพที่เกิดจากการสัมผัสควันบุหรี่มือสามทางผิวหนัง โดยศึกษาในอาสาสมัครที่มีสุขภาพดีและไม่สูบบุหรี่ จำนวน 10 ราย
ผลวิจัยพบว่า กลุ่มที่ได้รับการสัมผัสควันบุหรี่มือสาม มีการเพิ่มขึ้นของสาร Hydroxy-2’-deoxyguanosine (8-OHdG) ซึ่งเป็นสารบ่งชี้ภาวะการทำลายดีเอ็นเอ ในปัสสาวะของอาสาสมัครอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ แสดงให้เห็นว่า การสัมผัสควันบุหรี่มือสามทางผิวหนังเป็นเวลา 3 ชั่วโมง สัมพันธ์กับการทำงานของโปรตีนที่ตอบสนองต่อการอักเสบ เพิ่มการยึดเกาะของเซลล์เม็ดเลือด เกิดภาวะหลอดเลือดแข็งตัว และอาการอักเสบของผิวหนังชนิดเรื้อรัง ไลเคนพลานัส โดยมื่อติดตาม 22 ชั่วโมง ภายหลังการสัมผัสควันบุหรี่มือสาม พบมีการอักเสบของอวัยวะ มีการสะสมโปรตีนเคอราตินในหนังกำพร้าทำให้มีลักษณะหนาขึ้น เกิดโรคสะเก็ดเงินชนิดผื่นหนา plaque psoriasis และผิวหนังอักเสบ lichen planus อย่างมีนัยสำคัญ
“การสัมผัสควันบุหรี่มือสามส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการทำหน้าที่ของโปรตีนในพลาสมามนุษย์ กระตุ้นกลไกการเกิดโรคผิวหนังอักเสบ และเพิ่มปริมาณดัชนีชี้วัดทางชีวภาพของปฏิกิริยาออกซิเดชันในปัสสาวะ คล้ายคลึงกับอันตรายที่เกิดจากการสูบบุหรี่ ดังนั้น สิ่งที่ดีที่สุดที่จะหลีกหนีจากอันตรายควันบุหรี่มือสาม คือผู้สูบบุหรี่ควรเลิกบุหรี่ และสร้างสภาพแวดล้อมปลอดบุหรี่จากควันบุหรี่ทุกชนิด” ผศ.นพ.วิชช์กล่าว