จากการที่สภาองค์กรของผู้บริโภคแถลงข่าวคัดค้าน การที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องกำหนดค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวตลอดสายไม่เกิน 59 บาท โดยสภาองค์กรของผู้บริโภคเสนอให้พิจารณาราคาค่าโดยสารที่เป็นธรรมกับผู้บริโภค ในราคา 44 บาทก่อนหมดสัมปทานปี 2572 พร้อมระบุว่า สามารถทำค่าโดยสารในราคา 25 บาท ตลอดสายหลังจากหมดอายุสัมปทานได้ ซึ่งเห็นว่าเป็นราคาที่เหมาะสมที่ประชาชนทุกคนใช้รถไฟฟ้าได้ทุกวันนั้น เมื่อ 29 มิ.ย.65 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้เดินทางมาร่วมหารือและแถลงข่าวกับสภาองค์กรของผู้บริโภค ในประเด็นเคาะราคารถไฟฟ้าสายสีเขียว
โดย นางสาวสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสภาองค์กรของผู้บริโภค (สอบ.) ระบุว่า สอบ.เห็นว่ารถไฟฟ้าเป็นระบบขนส่งมวลชนอันเป็นบริการสาธารณะขั้นพื้นฐานที่จำเป็นต่อการดำเนินชีวิตประจำวันของประชาชน รัฐจึงควรมีนโยบายสนับสนุนให้ประชาชนสามารถใช้บริการได้อย่างทั่วถึงปลอดภัย แต่จากปัญหาการบริหารจัดการของรัฐที่ผ่านมาทำให้ค่าบริการรถไฟฟ้ามีราคาแพงเกินกว่าร้อยละ 10 ของรายได้ขั้นต่ำ โดยคิดเป็นร้อยละ 28 ส่งผลให้ประชาชนส่วนใหญ่เข้าไม่ถึงบริการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน จึงพบว่ามีคนใช้บริการเพียงร้อยละ 2.86 เท่านั้น ทั้งนี้ มองว่ารัฐบาลและ กทม. มีหน้าที่สำคัญในการสนับสนุนให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงระบบขนส่งมวลชนได้เพิ่มขึ้นอย่างปลอดภัย ทุกคนสามารถจ่ายค่าโดยสารได้อย่างเท่าเทียมเหมาะสมเป็นธรรม
“นอกจากนี้ มีประเด็นเรื่องสัญญาสัปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวเดิมจะหมดในปี 2572 แต่มีการจ้างเดินรถเกินเลยสัญญาสัมปทานหลักไปถึงปี 2585 ขอให้ผู้ว่าฯ หาทางแก้ปัญหาส่วนนี้ด้วย” นางสาวสารีกล่าว
ทั้งนี้ สภาองค์กรของผู้บริโภคได้มีข้อเสนอสำคัญต่อการแก้ปัญหาการกำหนดอัตราค่าบริการรถไฟฟ้าสายสีเขียว 6 ข้อ ดังต่อไปนี้
1) ยุติแผนระยะสั้นในการเก็บค่าบริการรถไฟฟ้าสายสีเขียวสูงสุดไม่เกิน 59 บาทโดยทันที
2) เปิดเผยข้อมูลรายละเอียดร่างสัญญาสัมปทานที่กำหนดค่าบริการรถไฟฟ้าสายสีเขียวสูงสุด 65 บาท และสัญญาจ้างเดินรถที่เกินเลยสัญญาสัมปทานถึงปี 2585 และแก้ไขสัญญาจ้างเดินรถให้สิ้นสุดพร้อมกันในปี 2572
3) กำหนดค่าบริการในอัตราสูงสุดใกล้เคียงกับรถไฟฟ้าทุกสายทุกระบบที่ 44 บาท ตามสิทธิสัญญาสัมปทานของบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
4) กำหนดสัดส่วนของค่าบริการขนส่งมวลชนต่อรายได้ขั้นต่ำของประชาชนต่อวันต้องไม่เกินร้อยละ 10 ของรายได้ขั้นต่ำ เพื่อส่งเสริมให้ผู้บริโภคทุกกลุ่มเข้าถึงและใช้บริการได้
5) ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครต้องเป็นผู้นำการเจรจาร่วมกับบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าสายสีเขียวในการนำโปรโมชั่นเที่ยวเดินทาง 30 วันกลับมาดังเดิม เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับผู้บริโภคและส่งเสริมให้ผู้บริโภคเข้าถึงระบบบริการรถไฟฟ้าได้เพิ่มขึ้น
6) สนับสนุนการมีส่วนร่วมของผู้แทนสภาองค์กรของผู้บริโภคในฐานะตัวแทนผู้บริโภคตามกฎหมายร่วมเป็นคณะกรรมการหรือคณะทำงานด้านขนส่งและยานพาหนะของหน่วยงานร่วมกับกรุงเทพมหานคร
ทั้งนี้ นายชัชชาติระบุว่า กทม. จะนำข้อเสนอของสภาองค์กรของผู้บริโภคไปพิจารณาเพื่อหาข้อสรุปเกี่ยวกับราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียว เรื่องตั๋วรายเดือน รวมถึงการเปิดสัญญาสัมปทาน และจะนำข้อมูลกลับมาหารือ สอบ. อีกครั้ง
“เรื่องการเปิดเผยสัญญาสัมปทานและสัญญาการจ้างเดินรถปี 2572 – 2585 นั้น ในสัญญามีข้อกำหนดเรื่องห้ามเปิดเผยสัญญานี้ ก็ต้องไปดูว่า กทม.มีอำนาจจะเปิดเผยสัญญาดังกล่าวเพื่อประโยชน์สาธารณะหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน กทม. ได้สัญญามาแล้ว ต้องมาดูให้เกิดความโปร่งใส และจะแก้ไขสัญญาให้สิ้นสุดปี 2572 พร้อมกับสัญญาสัมปทาน” นายชัชชาติระบุ
ที่มา: สภาองค์กรของผู้บริโภค