สธ.แถลงที่ประชุม ‘สมัชชาอนามัยโลก’ 4 ปัจจัยช่วย ‘ระบบสุขภาพไทย’ เข้มแข็ง สาธารณสุขมูลฐาน-หลักประกันถ้วนหน้าฯ


นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทย เข้าร่วมการประชุมสมัชชาอนามัยโลก สมัยที่ 76 และกล่าวถ้อยแถลงต่อที่ประชุมภายใต้หัวข้อ “ครบรอบ 75 ปี องค์การอนามัยโลก: การให้ชีวิตที่ดีต้องร่วมกันขับเคลื่อนสุขภาพดีถ้วนหน้า” (WHO at 75 : Saving lives, driving health for all) เมื่อวันที่ 23 พ.ค. 2566 ที่ Palais des Nations นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส

 

นายอนุทิน กล่าวว่า ประเทศไทยมี 4 ปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ประชาชนมีชีวิตที่ดีและบรรลุการมีสุขภาพดีถ้วนหน้า ได้แก่ 1. การให้บริการด้านสาธารณสุขมูลฐานที่มีประสิทธิภาพและครอบคลุมทุกพื้นที่ 100% โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบสุขภาพระดับอำเภอและระบบการส่งต่อผู้ป่วย ทำให้มีการให้บริการสาธารณสุขแบบบูรณาการ ตั้งแต่การส่งเสริมสุขภาพ การป้องกันโรค การเฝ้าระวัง การรักษา การฟื้นฟู และการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย

 

2. หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า เป็นปัจจัยหลักในการสร้างความเท่าเทียมการเข้าถึงบริการสุขภาพ ภายใต้แนวทางการดูแลสุขภาพของประชาชนแบบองค์รวม ที่ผู้ให้บริการด้านสุขภาพของ สธ. และหน่วยงานอื่นๆ อาทิ ภาคเอกชนและสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ร่วมกันขับเคลื่อน โดยมีสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (องค์การมหาชน) และพันธมิตร ช่วยสนับสนุนเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยของการรักษาพยาบาล และมหาวิทยาลัยและ สธ. มีส่วนร่วมในการฝึกอบรมผู้ประกอบวิชาชีพให้มีทั้งความสามารถและจริยธรรม

3. ปัจจัยสังคมและการค้า สธ. เป็นผู้นำร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และพันธมิตรอื่นๆ เช่น ภาคประชาสังคม สนับสนุนการป้องกันโรคไม่ติดต่อ ซึ่งขอยืนหยัดว่าไม่สนับสนุนบุหรี่ไฟฟ้า และ 4. การมีส่วนร่วมทางสังคมและชุมชน ทำให้เกิดความยืดหยุ่นของระบบสุขภาพ โดยมีอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านกว่า 1 ล้านคน เป็นกลไกสำคัญในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรค

ร้องทุกข์ - ร้องเรียน