เอ็นจีโอซัดที่ปรึกษา ‘เสี่ยหนู’ เบรกลงนามหลักเกณฑ์งบบัตรทองปี66


เอ็นจีโอซัดที่ปรึกษา “เสี่ยหนู” เบรกลงนามหลักเกณฑ์งบบัตรทองปี 66 อ้างไม่ควรใช้ดูแลคนไทยทุกสิทธิ อาจผิด ก.ม. ย้ำทุกยุคเซ็นเห็นชอบหมด ชี้ปกป้องคนเดียวแต่ทำลายทั้งระบบ กระทบการดูแลประชาชน เผยบอร์ด สปสช. มีมติจี้ “อนุทิน” เซ็นทันที…

เมื่อวันที่ 7 พ.ย. ที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ นำโดยนายนิมิตร์ เทียนอุดม กรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ผู้แทนองค์กรเอกชน กล่าวว่า วันนี้เป็นการประชุมบอร์ด สปสช. มีวาระสำคัญ คือ การประกาศการบริหารจัดการกองทุนหลักประกันสุขภาพฯ ปี 66 ที่ยังไม่มีการลงนาม ซึ่งจริงๆ ควรลงนามเสร็จตั้งแต่ก่อนวันที่ 1 ต.ค. เพื่อรองรับเบิกจ่ายในระบบตามประกาศ เมื่อประกาศออกไม่ทันก็กระทบผู้ไปใช้บริการ เพราะ รพ. ยังไม่สามารถเบิกจ่ายได้ ทำให้การรักษาล่าช้าได้ ประเด็นสำคัญที่ถูกโต้แย้งหรือสาเหตุที่ยังไม่ลงนาม คือที่ปรึกษา รมว.สาธารณสุข (รมว.สธ.) เสนอว่า งบประมาณส่งเสริมป้องกันโรค (PP) ที่ผ่านมา ดูแลคนไทยทุกสิทธิไม่ถูกต้อง จะต้องดูแลสิทธิบัตรทองเท่านั้น จึงเสนอไม่ให้ลงนาม ทั้งที่เดิมตั้งแต่ตั้งกองทุนขึ้น งบนี้เพื่อคนไทย 66 ล้านคน รมว.สธ. ทุกคนเห็นชอบเรื่องนี้หมด…

“เมื่อมีข้อทวงติง เราก็เป็นกังวลว่า หาก รมว.สธ. ไม่ลงนาม ผู้ป่วยติดบ้านติดเตียง ที่เพิ่งมีนโยบายแจกผ้าอ้อมให้ทุกคนทุกสิทธิ ต่อไปนี้ถ้าใครจะมารับผ้าอ้อมจะต้องเช็กสิทธิตัวเองก่อน จะสร้างความลำบากมาก หรือกรณีฝากครรภ์ ตรวจหาเชื้อ HIV ถุงยางอนามัย วัคซีนเด็ก วัคซีนทุกสิทธิก็จะเกิดปัญหา ดังนั้นจะของดเว้นเพราะกังวลด้านกฎหมาย จึงไม่ถูกต้อง”

นายนิมิตร์ กล่าวต่อไปว่า สิ่งที่ตนฟังการประชุมบอร์ด สปสช. แล้วรู้สึกไม่สบายใจ คือ ที่ปรึกษากฎหมายของ รมว.สธ. บอกว่ามีหน้าที่ป้องกัน รมว.สธ. เพื่อไม่ให้ลงนามแล้วผิดกฎหมาย นั่นหมายถึง เขาพร้อมทำลายหลักการใหญ่เรื่องงานป้องกันที่ต้องดูแลทุกคน เป็นการป้องกันคนหนึ่งคนโดยไม่สนใจว่า ระบบนี้จะพังหรือไม่ กลไกการส่งเสริมป้องกันของประเทศจะพังหรือไม่ ฉะนั้น วันนี้ตนขอบคุณบอร์ด สปสช. ทุกท่าน โดยเฉพาะเสียงข้างมากที่ยืนยันว่า ต้องรักษาระบบ แม้จะมีเสียงค้านในที่ประชุมว่า ต้องรับผิดชอบในการลงมติครั้งนี้ว่า หากเกิดข้อที่ผิดกฎหมายจะต้องถูกดำเนินคดีอย่างน้อย 20 ปี ขอบคุณที่เสียงข้างมาก ยืนยันเพื่อป้องกันโรคให้ทุกคน ตามที่เราได้ดึงงบส่วนนี้ออกมาจากงบเหมาจ่ายรายหัว

“เสียงข้างมากยืนยันในสิ่งที่สำนักงบประมาณ ระบุว่า การตั้งงบเพื่อดูแลทุกคนเป็นการกระทำที่ถูกต้อง เป็นสิ่งที่ ครม. มอบหมายไว้ตามมาตรา 18 (14) ทำให้เราเห็นความกล้าหาญของบอร์ด สปสช. ในครั้งนี้ วันนี้มีมติแล้วว่า ต้องลงนามทันที ซึ่งนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สธ. บอกในที่ประชุมว่า จะรีบดำเนินการพิจารณา เราต้องเฝ้าว่าจะมีการลงนามหรือไม่ หากมีเหตุที่ไม่ลงนาม ก็ต้องกลับมาในบอร์ด สปสช. อีกครั้ง ในการใช้มาตรา 26 (14) มอบให้เลขาธิการ สปสช. ดำเนินการ แล้วต้องมาดูว่า จะไปอย่างไร เลขาธิการ สปสช. จะลงนามหรือไม่ จะกล้าหาญปกป้องประโยชน์ประชาชนเป็นที่ตั้ง หรือจะปกป้องคนคนเดียว” นายนิมิตร์กล่าว.

 

ร้องทุกข์ - ร้องเรียน