สอบ. ยื่น 3 ข้อเสนอ กสทช. กำกับกิจการโทรคมนาคมให้แข่งขันอย่างเสรี เป็นธรรม

 

สภาองค์กรของผู้บริโภค (สอบ.) ยื่น 3 ข้อเสนอเรียกร้อง กสทช. ชุดใหม่ กำกับดูแลกิจการโทรคมนาคมให้เกิดการแข่งขันเสรีและเป็นธรรม เพื่อปกป้องผลประโยชน์ผู้บริโภค

วันที่​ 26 พฤษภาคม สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นสาธารณะในวงจำกัด (โฟกัสกรุ๊ป​) รอบที่ 3 ณ อาคารหอประชุม ชั้น 2 สำนักงาน กสทช. โดยนางสาวสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการ สอบ. ยืนยันในเวทีรับฟังความเห็นว่า การควบรวมกิจการของทั้ง 2 บริษัทอาจกระทบต่อผู้บริโภคในวงกว้าง และยื่นข้อเสนอให้ กสทช. เปิดเวทีรับฟังข้อเสนอจากองค์กรผู้บริโภค ภาควิชาการ และผู้บริโภค ดำเนินการส่งเสริมให้มีผู้ประกอบการโทรคมนาคมเพิ่มขึ้น เพื่อป้องกันอำนาจเหนือตลาด รวมทั้งทำความร่วมมือกับหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้พิจารณาผลกระทบอย่างรอบด้าน

 

นางสาวสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสภาองค์กรของผู้บริโภค กล่าวว่า การประกาศควบรวมกิจการในธุรกิจโทรคมนาคม ระหว่าง บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค และบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือทรูมูฟ เอช อาจทำให้กระทบต่อสภาพการแข่งขันในตลาดโทรคมนาคม และยังส่งผลให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกผู้ให้บริการโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่น้อยลง จนอาจทำให้เกิดปัญหาความเหลื่อมล้ำทางด้านดิจิทัล จึงขอยื่นข้อคิดเห็น และข้อเสนอแนะต่อนโยบาย กสทช. 3 ข้อ ดังนี้

1) ขอให้ กสทช.ชุดใหม่ ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลกิจการโทรคมนาคม ดำเนินการเปิดเวทีรับฟังข้อเสนอจากองค์กรผู้บริโภค ภาควิชาการ และผู้บริโภค เพื่อหาแนวทางในการกำกับดูแลกรณีดังกล่าว ไม่ให้เกิดอำนาจเหนือตลาดและการผูกขาดทางการค้า ซึ่งส่งผลกระทบ และนำไปสู่การเอาเปรียบผู้บริโภค

2) ขอให้ กสทช. มีมาตรการส่งเสริมและแทรกแซง ให้มีผู้ประกอบการโทรคมนาคมเพิ่มขึ้น ทั้งประเภทที่มีโครงข่ายเป็นของตนเอง และประเภทที่ไม่มีโครงข่ายเป็นของตนเอง (MVNO) เพื่อป้องกันอำนาจเหนือตลาด และเพิ่มสภาพการแข่งขัน ทั้งนี้ ต้องทำให้มั่นใจได้ว่า เงื่อนไขที่เจ้าของโครงข่ายเป็นผู้กำหนดให้กับผู้เช่าที่เป็นผู้ให้บริการ MVNO นั้นเป็นเงื่อนไขที่เป็นธรรม และเป็นเงื่อนไขที่ผู้เช่าโครงข่ายสามารถประกอบธุรกิจแข่งขันกับผู้ให้เช่าได้จริง

3) ขอให้ กสทช. ประสานการทำงานร่วมกับหน่วยงานกำกับกิจการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค และคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อพิจารณาผลกระทบในส่วนที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับแต่ละผู้กำกับกิจการ และพิจารณาผลกระทบในส่วนที่มีความเชื่อมโยงสัมพันธ์กับผู้กำกับกิจการมากกว่า 1 ราย เพื่อให้การพิจารณาผลกระทบโดยภาพรวมเป็นไปอย่างรอบด้าน

 

นพ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา ประธานอนุกรรมการเพื่อศึกษาและวิเคราะห์กรณีการรวมธุรกิจระหว่างบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน)) ด้านคุ้มครองผู้บริโภคและสิทธิพลเมือง กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อรับฟังความคิดเห็นสาธารณะเกี่ยวกับประเด็น ‘การควบรวมกิจการทรู – ดีแทค’ โดยเป็นการรับฟังความเห็นในวงจำกัด ซึ่ง กสทช.ประสานไปยังผู้ขอควบรวมกิจการเพื่อขอความร่วมมือเข้าร่วมประชุม​ด้วย แต่ผู้ขอควบรวมปฏิเสธที่จะเข้าร่วม โดยให้เหตุผล​ว่าการเปิดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะนี้ไม่มีความเป็นกลาง อย่างไรก็ตาม​ กสทช. ยืนยันที่จะจัดการประชุม และนำข้อมูลจากนักวิเคราะห์​ของผู้ขอควบรวมที่สามารถ​เปิดเผยได้ มาเป็นข้อมูลประกอบในการประชุม ทั้งนี้ มีข้อมูลบางส่วนที่ไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากผู้ขอควบรวมอ้างว่าเป็นความลับทางการค้า และไม่อนุญาตให้เปิดเผย

“การเปิดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะนี้ เป็นขั้นตอนการพิจารณา​ทางปกครอง เพื่อนำข้อสรุปเข้าสู่ที่ประชุม​คณะ​อนุกรรมการ​พิจารณา โดยการควบรวมกิจการทรู – ดีแทคนี้ กสทช. ในฐานะองค์กร​กำกับดูแลต้องให้การอนุญาตก่อน ขณะนี้ไม่สามารถ​ตอบได้ว่า ควบรวมได้หรือไม่ แต่หากพิจารณา​แล้ว สามารถควบรวมได้ จะมีการกำหนดมาตรการเฉพาะ เพื่อป้องกันผลกระทบ​ที่อาจเกิดขึ้นกับผู้บริโภค​ในอนาคต​ต่อไป” นพ.ประวิทย์ กล่าว

ที่มา: สภาองค์กรของผู้บริโภค

ร้องทุกข์ - ร้องเรียน